Friday, December 31

Fang


สิกขาบท ๓๐๔ ว่า ภิกขุนีวิภังค์ อย่างนี้แล้ว ตั้งไว้ว่า วิภังค์นี้ชื่อ
อุภโตวิภังค์ มี ๖๔ ภาณวาร. แม้ในเวลาเสร็จการสังคายนาคัมภีร์
อุภโตวิภังค์ แผ่นดินใหญ่ก็ได้ไหวโดยนัยที่กล่าวแล้วเหมือนกัน.
โดยอุบายวิธีนี้แหละ พระธรรมสังคาหกเถระทั้งหลาย ยกคัมภีร์
ขันธกะ (มหาวรรคและจุลวรรค ) ซึ่งมีประมาณ ๘๐ ภาณวาร และ
คัมภีร์บริวารซึ่งมีประมาณ ๒๕ ภาณวาร ขึ้นสู่สังคายนาแล้วตั้งไว้ว่า
ปิฎกนี้ชื่อวินัยปิฎก. แม้ในเวลาเสร็จการสังคายนาวินัยปิฎก แผ่นดินได้
ไหวตามนัยที่กล่าวแล้วนั่นแล. พระธรรมสังคาหกเถระทั้งหลายได้มอบ
ท่านพระอุบาลีให้ไปสอนลูกศิษย์ของท่าน ในเวลาเสร็จการสังคายนา
วินัยปิฎก พระอุบาลีเถระ วางพัดงาลงจากธรรมาสน์ นมัสการภิกษุ
ชั้นเถระทั้งหลายแล้วนั่งบนอาสนะที่ถึงแก่ตน.
ครั้นสังคายนาพระวินัยเสร็จแล้ว ท่านพระมหากัสสปะประสงค์
จะสังคายนาพระธรรมต่อไป จึงถามภิกษุทั้งหลายว่า เราทั้งหลายผู้จะ
สังคายนาพระธรรม (สุตตันตปิฎกและอภิธรรมปิฎก) จะจัดให้ใครรับ
เป็นธุระสังคายนาพระธรรม ภิกษุทั้งหลายกล่าวว่า ให้ท่านพระอานนท-
เถระ
รับเป็นธุระ ครั้งนั้นแล ท่านพระมหากัสสปะได้เผดียงว่า ดูก่อน
ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ขอสงฆ์จงพึงจงฟังข้าพเจ้า ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์
ถึงที่แล้ว ข้าพเจ้าจะขอถามพระธรรมกะพระอานนท์. ครั้งนั้นแล ท่าน
พระอานนท์ได้เผดียงว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า
ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว ข้าพเจ้าอันท่านพระมหากัสสปะ
ถามพระธรรมแล้ว จะตอบ. ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ลุกจากอาสนะ
ห่มจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง นมัสการภิกษุชั้นพระเถระทั้งหลายแล้วนั่งบน

Insert Table

   🔠  ₁₆₅

No comments:

Blog Archive

Phra Ratana Kosin Sok Thi 236 —239