มิได้กล่าวว่าไม่มี ท่านผู้เจริญ แต่อัตตานี้มิได้ขาดสูญอย่างเด็ดขาดด้วยเหตุ
เพียงเท่านี้ ท่านผู้เจริญ ยังมีอัตตาอย่างอื่นที่เข้าถึงชั้นเนวสัญญานาสัญญา-
ยตนะ มีอารมณ์ว่า นั่นละเอียด นั่นประณีต เพราะล่วงอากิญจัญญายตนะ
ได้โดยประการทั้งปวง ซึ่งท่านไม่รู้ไม่เห็น ข้าพเจ้ารู้ ข้าพเจ้าเห็นอัตตา
นั้น ท่านผู้เจริญ เพราะกายแตก อัตตานั้นแลย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ
ย่อมไม่มี ฉะนั้นหลังแต่ความตาย ท่านผู้เจริญ อัตตานี้จึงเป็นอันขาด
สูญอย่างเด็ดขาด. สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง ย่อมบัญญัติความขาดสูญ
ความพินาศ ความไม่มีของสัตว์ที่มีอยู่ ด้วยประการฉะนี้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์เหล่านั้น มีวาทะว่าขาดสูญ
ย่อมบัญญัติความขาดสูญ ความพินาศ ความไม่มีของสัตว์ทั้งหลายที่มี
อยู่ ด้วยวัตถุ ๗ นี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง มีวาทะ
ว่า ขาดสูญ ย่อมบัญญัติความขาดสูญ ความพินาศ ความไม่มีของสัตว์
ที่ปรากฏอยู่ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด ย่อมบัญญัติด้วยวัตถุ
๗ นี้เท่านั้น หรือด้วยอย่างใดอย่างหนึ่งใน ๗ อย่างนี้ นอกจากนี้ไม่มี.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องนี้ตถาคตรู้ชัดว่า ฐานะเป็นที่ตั้งแห่ง
วาทะเหล่านี้ ที่บุคคลถือไว้อย่างนั้นแล้ว ยึดไว้อย่างนั้นแล้ว ย่อมมี
คติอย่างนั้น มีภพเบื้องหน้าอย่างนั้น. อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้เหตุนั้น
ชัด และรู้ชัดยิ่งขึ้นไปกว่านั้น ทั้งไม่ยึดมั่น ความรู้ชัดนั้นด้วย. และ
เมื่อไม่ยึดมั่น ตถาคตก็รู้ความดับสนิทเฉพาะคนเฉพาะตน รู้ความเกิด ความ
ดับ คุณ โทษ แห่งเวทนาทั้งหลาย กับอุบายเป็นเครื่องออกไปจาก
เวทนาเหล่านั้น ตามความเป็นจริง. เพราะไม่ยึดมั่น ตถาคตจึง
เพียงเท่านี้ ท่านผู้เจริญ ยังมีอัตตาอย่างอื่นที่เข้าถึงชั้นเนวสัญญานาสัญญา-
ยตนะ มีอารมณ์ว่า นั่นละเอียด นั่นประณีต เพราะล่วงอากิญจัญญายตนะ
ได้โดยประการทั้งปวง ซึ่งท่านไม่รู้ไม่เห็น ข้าพเจ้ารู้ ข้าพเจ้าเห็นอัตตา
นั้น ท่านผู้เจริญ เพราะกายแตก อัตตานั้นแลย่อมขาดสูญ ย่อมพินาศ
ย่อมไม่มี ฉะนั้นหลังแต่ความตาย ท่านผู้เจริญ อัตตานี้จึงเป็นอันขาด
สูญอย่างเด็ดขาด. สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง ย่อมบัญญัติความขาดสูญ
ความพินาศ ความไม่มีของสัตว์ที่มีอยู่ ด้วยประการฉะนี้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์เหล่านั้น มีวาทะว่าขาดสูญ
ย่อมบัญญัติความขาดสูญ ความพินาศ ความไม่มีของสัตว์ทั้งหลายที่มี
อยู่ ด้วยวัตถุ ๗ นี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง มีวาทะ
ว่า ขาดสูญ ย่อมบัญญัติความขาดสูญ ความพินาศ ความไม่มีของสัตว์
ที่ปรากฏอยู่ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นทั้งหมด ย่อมบัญญัติด้วยวัตถุ
๗ นี้เท่านั้น หรือด้วยอย่างใดอย่างหนึ่งใน ๗ อย่างนี้ นอกจากนี้ไม่มี.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องนี้ตถาคตรู้ชัดว่า ฐานะเป็นที่ตั้งแห่ง
วาทะเหล่านี้ ที่บุคคลถือไว้อย่างนั้นแล้ว ยึดไว้อย่างนั้นแล้ว ย่อมมี
คติอย่างนั้น มีภพเบื้องหน้าอย่างนั้น. อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้เหตุนั้น
ชัด และรู้ชัดยิ่งขึ้นไปกว่านั้น ทั้งไม่ยึดมั่น ความรู้ชัดนั้นด้วย. และ
เมื่อไม่ยึดมั่น ตถาคตก็รู้ความดับสนิทเฉพาะ
ดับ คุณ โทษ แห่งเวทนาทั้งหลาย กับอุบายเป็นเครื่องออกไปจาก
เวทนาเหล่านั้น ตามความเป็นจริง. เพราะไม่ยึดมั่น ตถาคตจึง
No comments:
Post a Comment