Wednesday, February 2

Dueat Ron


พวกหนึ่ง อาศัยแล้ว ปรารภแล้ว มีความเห็นดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูก
ถามปัญหาในเรื่องนั้น ๆ จึงกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว.
(๔๐) ๑๔.๒ อนึ่ง ในฐานะที่ ๒ สมณพราหมณ์ผู้เจริญ อาศัย
อะไร ปรารภอะไร จึงมีความเห็นดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาใน
เรื่องนั้น ๆ ย่อมกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์บางพวกในโลกนี้ ไม่รู้
ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล. เขามีความคิดอย่างนี้
ว่า เราไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล ก็ถ้าเราไม่
รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้เป็นกุศล นี้เป็นอกุศล จะพึงพยากรณ์ว่า
นี้เป็นกุศล หรือนี้เป็นอกุศล ความพอใจ ความติดใจ ความเคืองใจ
หรือความขัดใจในข้อนั้นพึงมีแก่เรา ข้อที่มีความพอใจ ความติดใจ
ความเคืองใจ หรือความขัดใจนั้น จะพึงเป็นอุปาทานของเรา อุปาทาน
ของเรานั้นจะพึงเป็นความเดือนร้อนเดือดร้อนแก่เรา ความ
เดือนร้อนของเรานั้นจะ
พึงเป็นอันตรายแก่เรา. ด้วยเหตุฉะนี้ เขาจึงไม่พยากรณ์ว่า นี้เป็นกุศล
นี้เป็นอกุศล เพราะกลัวอุปาทาน เพราะเกลียดอุปาทาน เมื่อถูกถามปัญหา
ในเรื่องนั้น ๆ จึงกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัวว่า ความเห็นของเราว่า อย่างนี้
ก็มิใช่ อย่างนั้นก็มิใช่ อย่างอื่นก็มิใช่ ไม่ใช่ก็มิใช่ มิใช่ไม่ใช่ก็มิใช่.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นฐานะที่ ๒ ที่สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง อาศัยแล้ว
ปรารภแล้ว มีความเห็นดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาในเรื่องนั้น ๆ
จึงกล่าววาจาดิ้นได้ไม่ตายตัว.
(๔๑) ๑๕.๓ อนึ่ง ในฐานะที่ ๓ สมณพราหมณ์ผู้เจริญ อาศัย
อะไร มีความเห็นดิ้นได้ไม่ตายตัว เมื่อถูกถามปัญหาในเรื่องนั้น ๆ ย่อม

Insert Table

   🔠  ₆₆

No comments:

Blog Archive

Phra Ratana Kosin Sok Thi 236 —239